เคยเห็น Bill Gates บอกว่าชอบจะเลือกคนที่ขี้เกียจให้ทำงานยากๆ
เลยอยากบอกว่าผมเองก็ใช้ความขี้เกียจเป็นแรงขับเคลื่อนในการทำงานมาตั้งนานแล้วก่อนที่เขาจะออกมาพูดซะด้วยซ้ำ
อย่างเช่นผมขี้เกียจที่จะไปทะเลาะต่อล้อต่อเถียงกับใคร
ผมเลยต้องหาที่หาทางสร้างอาณาจักรเล็กๆที่เป็นอิสระของตัวเองจะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายทะเลาะกับใครหลายคนให้ปวดหัวและเสียบุคลิก
ผมขี้เกียจที่จะต้องทำงานเองคนเดียว
เพราะไม่ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นคนขี้เหงาก็เลยพยายามค้นหาคนที่ใช่และพัฒนาให้เขาเป็นคนเก่งใครเก่งกว่าผมยิ่งดีผมยิ่งชอบจะได้มีคนมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างอาณาจักร
ผมขี้เกียจเป็นหนี้บุญคุณคน
ผมจึงไม่รอคอยความช่วยเหลือจากใครต้องพยายามที่จะไม่พึ่งพาใครให้เสียศักดิ์ศรี
อะไรทำได้ก็รีบทำด้วยตัวเองซะก่อนอะไรไม่รู้ก็รีบศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจนแจ่มกระจ่าง
อะไรไม่ถนัดก็รีบหัดให้เก่งๆ
พยายามลองผิดลองถูกจนทำได้คล่องแคล่วแม่นยำ

ผมขี้เกียจที่จะต้องทำงานหนักๆ
ผมจึงต้องพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อสร้างวิธีทำงานให้ง่ายที่สุดไม่หนักไม่เหนื่อยและแน่นอนต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพให้ได้ประสิทธิผล ดีและเร็วที่สุดข้อนี้น่าจะใกล้เคียงกับแนวคิดของเจ้าพ่อ Microsoft ที่ว่าไว้
ก็เพราะความขี้เกียจนี่แหละผมจึงต้องรีบขยันแต่เนิ่นๆเผื่อจะได้เกษียณรวยเกษียณเร็วตั้งแต่ก่อนยังไม่แก่ จะได้มีเวลาใช้ชีวิตแบบคนขี้เกียจอยู่อย่างสุขสบายไม่เครียด อยากเสียสละสร้างประโยชน์กับสังคมบ้างไม่ต้องคอยให้แก่ยักแย่ยักยัน รอจนถึงบั้นปลายจึงค่อยมีโอกาสได้วางมือปานนั้นทำอะไรก็คงไม่ไหวไม่ทันได้ใช้ชีวิตแน่ๆ
สุดท้ายผมขี้เกียจเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานงกๆเงิ่นๆทำเพลินตลอดชีวิตจนตายคาโต๊ะทำงาน
เลยพยายามรีบวางแผนที่จะทำให้ตัวเองได้พักหลังจากการทำงานหนักไปสักระยะหนึ่งผมเห็นมามากมายเลยครับกับหลายๆมหาเศรษฐีที่คิดว่ามีชีวิตเป็นอมตะทำงานแบบลืมไปเลยว่าต้องตาย ชนิดที่พูดภาระโปรเจคยักษ์ในเวลาที่ควรจะพักได้แล้ว ลำพังทรัพย์สินที่มีอยู่ใช้อีก 20 ชาติก็ใช้ไม่หมด
รวยแต่ยุ่งสนุกตรงไหน
บอกแล้วบอกอีกจนขี้เกียจจะบอกแล้ว