ผมอยากชวนทุกคนมารู้เรื่องส่งออกออกกับการจดทะเบียนขนส่งออกจากเราจะต้องจดทะเบียนอะไรกันบ้างถ้าไม่ทำสินค้าของเรากดส่งออกไม่ได้ครับ
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับรูปแบบองค์กรธุรกิจกันสักนิดซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทคือ
นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาได้แก่กิจการร้านค้าเจ้าของคนเดียวห้างหุ้นส่วนสามัญ
นิติบุคคลได้แก่ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัดบริษัทมหาชนองค์กรที่จัดตั้งหรือจดทะเบียนภายใต้กฎหมายเฉพาะ
การทำธุรกิจแบบบุคคลธรรมดาจะมีความคล่องตัวในการตัดสินใจสูงนักธุรกิจน้ำมันจะนิยมทำกันในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
เมื่อเติบโตขึ้นการเปลี่ยนแปลงไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลก็มีมากขึ้นเนื่องจากได้รับสิทธิพิเศษในด้านภาษีที่ดีกว่าบุคคลธรรมดาสามารถผลิตได้มากกว่าแต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงต้นทุนด้านอื่นๆเพิ่มขึ้นมาเช่นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการในรูปแบบนิติบุคคลค่าตรวจสอบบัญชีค่าพนักงานและอื่นๆเปรียบเทียบกับต้นทุนผลิตที่ประหยัดได้แบบไหนจะดีกว่ากันสำหรับธุรกิจเรา
ในช่วงระยะหลังมานี้รัฐบาลได้ทำการสนับสนุนการทำธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหรือที่รู้จักกันว่า SME ให้มีการจดทะเบียนนิติบุคคลมากขึ้นโดยการให้สิทธิพิเศษทางภาษีเช่นกำไร 300 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษีอากร

ดังนั้นนักธุรกิจส่งออกไปใหม่ก็ลองพิจารณากันดูนะครับว่าจะจดทะเบียนนิติบุคคลดีไหมถ้ามองในแง่ความเชื่อน่าเชื่อถือธุรกิจแล้วจดทะเบียนนิติบุคคลก็กินขาด
ถ้าใครอยากจบก็ตกมากเขาจะให้จดทะเบียนออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจออนไลน์ได้เลยครับ www.dbd.go.th
ต่อมาผู้ที่จะส่งออกสินค้าทุกคนจำเป็นต้องจดทะเบียน 2 ประเภทนี้คือ
1. จดทะเบียนพาณิชย์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
2 จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกสินค้ากับกรมศุลกากร
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ส่งออกสินค้าควบคุมจะต้องจดทะเบียนเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ครับ
3 จดทะเบียนผู้ประกอบการส่งออกกรมการค้าต่างประเทศ
4 จดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าขายออกซึ่งสินค้ามาตราฐานจากสำนักงานมาตรฐานสินค้ากรณีสินค้าควบคุมเป็นสินค้ามาตรฐานด้วย
จดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าขายออกซึ่งสินค้ามาตราฐานจากสำนักงานมาตรฐานสินค้ากรณีสินค้าควบคุมเป็นสินค้ามาตรฐานด้วย
5 จดทะเบียนเฉพาะสินค้ากับหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบดูแลสินค้านั้นๆเช่นจดทะเบียนเพื่อขอใบรับรองไม้และใบอนุญาตส่งออกจากกรมป่าไม้
สำหรับผู้ที่ส่งออกสินค้าอย่างเราๆท่านๆจะต้องจดทะเบียนพาณิชย์กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากันทุกคนนะครับเพราะนอกจากจะเข้าข่ายผิดกฎหมายกำหนดแล้วทำให้ธุรกิจควรมีหลักฐานทางการค้าเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อสื่อสารในปัจจุบันที่มีการสื่อสารผ่านอีเมล์เป็นหลักแล้วด้วยเรียกว่าถึงไม่ได้เห็นหน้าเห็นตากันก็สามารถตกลงซื้อขายกันได้ง่ายขึ้นเมื่อมีการเอกสารจดทะเบียนพาณิชย์เป็นเครื่องยืนยันและเป็นใบเบิกทางในการทำธุรกิจอีกทั้งยังใช้เป็นเอกสารประกอบการติดต่อธุรกิจกับทางหน่วยงานภายในประเทศและต่างประเทศด้วยครับยังใช้เป็นเอกสารประกอบการทำธุรกรรมในสถาบันการเงินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกด้วย

ในเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้านี้เราจะได้ทราบขั้นตอนเอกสารที่จะต้องใช้ประกอบการจดทะเบียนสถานที่จดทะเบียนแล้วก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์ทั้งหมดด้วยครับ
สำหรับผู้ที่จดทะเบียนพาณิชย์ก็คือคนทำธุรกิจการค้าแทบทุกชนิดนั่นแหละซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้แบ่งผู้ที่มีหน้าที่จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ 5 ประเภทครับ
1บุคคลธรรมดาคนเดียว
2ห้างหุ้นส่วนสามัญ
3นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่มาตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทย
4ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจำกัด
5บริษัทจํากัดและบริษัทมหาชนจำกัด
มาถึงตรงนี้ที่เข้ามาเกี่ยวคือภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นอีกหนึ่งภาษีที่มีความสำคัญซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการที่มีไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและมีมูลค่าของฐานภาษีเกิน 1800000 บาทต่อปีต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบาทต่อปีต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
โดยทั่วไปการส่งออกสินค้าจะได้รับยกเว้นอากรศุลกากรได้ 10 เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% เพียงแต่สินค้าต้องได้มีการผ่านพิธีการทางศุลกากรเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์ดังกล่าว
ข้อดีคือผู้ส่งออกในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็คือการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มสรรพากรโดยคิดจากภาษีมูลค่าเพิ่มของการขายลบด้วยภาษีมูลค่าเพิ่มของการซื้อเท่ากับภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะต้องส่งให้กรมสรรพากร
ในเมื่อภาษีมูลค่าเพิ่มของการส่งออกเท่ากับ 0 ดังนั้นเราจะได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มคืนจากการที่เราได้จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มไปในการซื้อสินค้ามาผลิตเพื่อส่งออกครับ
ลองเข้าไปดูรายละเอียดเอกสารในการยื่นขอจดทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ในเว็บนี้จะมีข้อมูลน่าสนใจอีกที่คุณควรรู้อีกมากมายเลยครับ
เสร็จจากนี้แล้วเราก็ไปกันต่อที่เว็บไซต์ของกรมศุลกากร www.customs.go.th เข้าไปที่หัวข้อผู้ประกอบการแล้วก็การลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้าส่งออกครับ
คลิปเสร็จเมื่อไหร่ผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้เป็นผู้ส่งออกโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ไม่ว่าคุณจะเป็นใครอยู่ที่ไหนถ้าคิดส่งออกคุณต้องลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกสินค้ากรมศุลกากรมิฉะนั้นจะไม่สามารถส่งสินค้าได้เด็ดขาดครับ

พร้อมกันนี้ผู้ส่งออกจะต้องทำบัตรผ่านพิธีการศุลกากรหรือว่า Smart Card เป็นบัตรที่มีความสำคัญมากในการที่สำหรับผู้ส่งออกที่จะต้องใช้แสดงในการผ่านพิธีการศุลกากรหรือได้รับสิทธิ์ต่างๆซึ่งออกให้โดยกรมศุลกากรสามารถลงทะเบียนทำบัตรผ่านเว็บไซต์นี้ได้เช่นกัน
บัดนี้จะบันทึกข้อมูลพื้นฐานของผู้ถือบัตรเพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบรายละเอียดในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆผ่านพิธีการศุลกากรทำให้รวดเร็วและประหยัดเวลาทั้งนี้ผู้ส่งออกสามารถมอบอำนาจให้ตัวแทนของออกของรับอนุญาตหรือภาษาในวงการที่เรียกกันว่า shipping ที่เรียกว่า Custom broker เป็นผู้ดำเนินการผ่านพิธีการศุลกากรแทนก็ได้ครับ
การผ่านพิธีการศุลกากรโดย shipping ก็จะสะดวกประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาสำหรับผู้ส่งออกปีใหม่หรือผู้ส่งออกที่เป็น SME เมื่อเทียบกับการลงทุนเองครับ
นับว่ายุคนี้เราโชคดีกว่าสมัยก่อนเยอะตรงที่ข้อมูลหาง่ายจดทะเบียนก็เร็วทุกอย่างแค่ปลายนิ้วนั่งทำที่บ้านก็ได้งั้นแอบเชียร์สะดวกแบบนี้อยากให้คนไทยเรามาส่งออกกันรัวๆเลยครับ
คราวนี้มาถึงเรื่องว้าวุ่นใจของผู้ที่ส่งออกสินค้าควบคุมกับคำถามที่ว่าแล้วระหว่างลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกการลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตส่งออกควรจะทำอย่างไรก่อน
ตอบเลยว่าเอาที่คุณสบายใจครับอะไรก่อนหรือหลังก็ได้แต่สุดท้ายก่อนส่งออกต้องลงทะเบียนให้ครบทุกอย่างสำหรับผมขอแนะนำว่าลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกไปก่อนน่าจะดีกว่าเพราะเมื่ออื่นๆพร้อมมาตามมาก็สามารถส่งออกได้เลย
อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ส่งออกจะต้องปฏิบัติตามระเบียบประกาศของกรมการค้าต่างประเทศและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนดังนั้นกรมการค้าต่างประเทศจึงเพิ่มช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ส่งออกมากขึ้นโดยการให้ผู้ส่งออกลงทะเบียนผู้ประกอบการเพื่อขอใช้งาน username กลางร่วมกับบริการระบบงานอื่นของกรมการค้าต่างประเทศ
กลางร่วมกับบริการระบบงานอื่นของกรมการค้าต่างประเทศลงทะเบียน www.dft.go.th หัวข้อบริการจากกรมแล้วไปต่อที่ขั้นตอนการขอมีบัตรประจำตัว
หลังจากนั้นผู้ส่งออกก็สามารถลงทะเบียนของยูเซอรีนกลางได้ตามขั้นตอนในลิงค์ของหน้านี้จะมีทั้งข้อประเภทนิติบุคคลและบุคคลธรรมดารวมถึงขั้นตอนการกรอกขอบัตรประจำตัวผู้ส่งออกแนะนำไว้ให้ด้วยครับโดยบัตรประจำตัวผู้ส่งออกนี้จะใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดต่องานกับกรมการค้าต่างประเทศต่อไป
ทั้งนี้การกรมการค้าต่างประเทศจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการส่งออกจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่มีตัวตนและดำเนินธุรกิจจึงเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ

สำคัญมากห้ามพลาดเวลาจดทะเบียนจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริงหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ถูกต้องคุณอาจจะมีความผิดตามกฎหมายที่ให้ข้อมูลเท็จกับหน่วยงานราชการด้วยนะครับ
เมื่อเรามีสินค้ามาตรฐานของตัวเองนั้นก็ต้องไปขอจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าออกซึ่งสินค้ามาตรฐานตามรายละเอียดในเว็บไซต์ www.ocs.dft.go.th
มาถึงจุดนี้ก็น่าจะพอทำให้ทุกท่านได้มองเห็นภาพของรัชกาลที่เราจะต้องเกี่ยวข้องกับการส่งออกได้ง่ายและเข้าใจมากขึ้นนะครับผมพยายามจะเรียบเรียงให้ทุกท่านได้มองตามไปทีละขั้นตอนแต่ละกิจกรรมติดต่อหน่วยงานเพื่อให้อ่านและทำตามได้อย่างเข้าใจสู้ๆนะครับ
ขอข้าวหอมมะลิเพิ่งเก็บเกี่ยวหมายเลยฉันซื้อมาฝากให้กับลูกค้าบริการลองกินดูเขาว่าหอมนุ่มอร่อยนักแหละใส่เข้าตู้ที่เราจะโหลดพรุ่งนี้ไปเลยบอกเขาด้วยนะว่าด้านในบอกวิธีหุงไว้ให้แล้ว กล่องเดียวแต่ต้อง 24 กิโลกรัมก็ต้องขอล่ะครับขายไม่ขายก็เขาถือว่าเป็นของต้องกำจัดแถมข้าวหอมมะลิยังเป็นสินค้าสถานีด้วยส่งไปแค่กล่องเดียวนี้ก็ไม่คุ้มเสียเลยนะครับทั้งเสียค่าใช้จ่ายและยังเสียเวลาไปทำเรื่องส่งออกด้วยอีกอย่างถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาสินค้าที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหมดก็อาจจะพลอยฟ้าพลอยฝนไม่ได้ส่งออกตามไปด้วยกันครับ
ดังนั้นใครเห็นว่าฝากของดิฉันไม่เป็นไรแบบคนนี้อันนี้ก็ได้คิดอะไรนะครับมันไม่คุ้มจริงๆ
นอกจากของจริงหรือของโกวิทนาทีนิดนึงตามที่เพิ่งเป็นข่าวไปเรื่องของการส่งออกหน้ากากอนามัยที่มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรเปิดตู้ตรวจสินค้าแต่ทำไมยังออกสามารถส่งออกได้นั้นเพราะของที่ถูกต้องและไม่มีสินค้าที่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายป่นด้วยนั้นเอง
ด้วยเหตุนี้ที่เกิดขึ้นเหล่านี้จึงเป็นที่มาที่ผมพยายามอธิบายเรื่องของระบบราชการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกมาเยอะหน่อยก็เพื่อจะปูพื้นฐานความเข้าใจให้กับท่านที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่คิดว่าเรื่องการส่งออกเป็นเรื่องยุ่งยากเข้าใจยากในตัวบุคคลธรรมดาหรือนักศึกษาที่ทำการบ้านเรื่องการส่งออกส่งอาจารย์ไม่ได้รวมทั้งผู้ที่มีปัญหากับคนในครอบครัวจากความไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องทุ่มเทเวลาให้กับการส่งออกมากขนาดนั้นเลยหรือใครก็ได้มาเลยผมขอกวักมือเรียกให้อ่านด้วยกันครับ
0 Comments