เครื่องมือ Wave Tunnel Technics Part 1


1

Wave Tunnel Technics เป็น Trade setup ที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย สามารถนำไปใช้ในการเทรดซื้อขายตามแนวโน้มได้ดี นักลงทุนระยะกลางที่ถือหุ้นตามแนวโน้มสามารถนำไปใช้ใน Time Frame Weekly และ Time Frame Day ได้ หรือเทรดเดอร์จะใช้ในการเก็งกำไรก็ใช้กับ Time Frame Day หรือ Intraday ก็ได้ ซึ่งเทรดได้ทั้ง Time Frame 60 นาที, 30 นาที หรือ จะเทรดใน 5 นาที ในสินค้าอย่าง Forex หรือ Gold Spot ก็ยังใช้งานได้ดี

Trade Setup ชุดนี้ประกอบด้วยเครื่องมือทางเทคนิค 4 ส่วน ได้แก่

1.Volume + Standard Deviation ใช้ประเมินปริมาณการซื้อขาย

2.Awesome Oscillator หรือ AO เป็น indicator ยอดนิยของ Bill Williams ปรมาจารย์เทรดเดอร์ชื่อดังคนหนึ่งจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

3.Raghee Wave เป็นเทคนิคของ Raghee Horner ที่ใช้เส้นค่าเฉลี่ย EMA34 มาช่วยจับจังหวะการพักตัวของราคา

4.Vegas Tunnel เป็นเทคนิคที่โด่งดังในการเทรด Forex โดยผู้ไม่เปิดเผยนามเป็นคนค้นคิดขึ้นมา และถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในการเทรด Forex

กราฟแสดงระบบ Wave Tunnel Technics

เราจะใช้การพิจารณากราฟเป็น 3 Time Frame โดยสินค้าแต่ละอย่างก็อาจจะมีการใช้ชุดของ Time Frame ที่แตกต่างกันไป ตามความเร็วของการเทรด

สำหรับหุ้น จะใช้ Time Frame Week/ Day/ 60 นาที โดย Week ใช้สำหรับดูแนวโน้มของราคาว่าเป็นขาขึ้น หรือ ขาลง เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการเทรดและใช้ Time Frame Day สำหรับการดูเงื่อนไขการพักตัว และออกตัวของราคาครบถ้วนตาม Trade Setup ส่วน Time Frame 60 min ใช้ในการจับจังหวะซื้อขายหลังจากที่ Time Frame Day มีสัญญาณครบตาม Trade Setup แล้ว

สำหรับ Future, Forex, หรือ Gold Spot อาจใช้ 3 Time Frame ที่มีสัดส่วนเล็กลงไปเช่น Day/ 60 นาที/ 5 นาที หรือ H4/ M30/ M5 เป็นต้น

คราวนี้เรามทำความเข้าใจการใช้งานของเครื่องมือแต่ละชิ้นว่ามีหน้าที่ในการให้สัญญาณอย่างไรในการเทรดครับ

Volume + Standard Deviation

Volume แสดงปริมาณการซื้อขาย แต่เพิ่มเติมค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานมาช่วยในการประเมินปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้น ในการตั้งกราฟ อาจจะประยุกต์ใช้ Bollinger Band ใส่เข้าไปใน Volume จากภาพก็เห็นเส้นค่าเฉลี่ย SMA20 เป็นเส้นสีชมพู และ Upper Band ซึ่งเป็น Standard Deviation +2 เป็นเส้นประสีฟ้า ในการตั้งกราฟ ก็จะตั้งค่าให้ Lower Band มีค่าเป็นศูนย์หรือซ่อน Lower Band ไม่ให้แสดงออกมา

แสดง Volume ใส่ Bollinger Band เข้าไป

ในการวิเคราะห์ก็ให้ดู Volume ของแต่ละแท่งราคา ดังนี้

หาก Volume น้อยกว่า SMA20 คือ มีปริมาณการซื้อขายไม่มาก มักเกิดในขณะที่ราคาพักตัวออกข้าง หรือวิ่งในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และราคาเริ่มชะลอตัว

หาก Volume อยู่ระหว่าง SMA20 และ SD+2 ก็แปลว่า มีปริมาณการซื้อขายมาก จะพบในขณะที่ราคาวิ่งทะลุแนวรับหรือแนวต้านหรือราคา Break out จุดสูงเดิมหรือจุดต่ำกว่าเดิม หรืออาจพบในระหว่างที่ราคาเพิ่งเริ่มวิ่ง หรือกำลังวิ่งขึ้น หรือวิ่งลงในทิศทางที่ชัดเจน ซึ่งแท่งราคาจะไม่ยาวมาก หรืออาจพบในแท่งราคาที่เป็นสัญญาณกลับตัว (Candlestick Reversal Signal) เกิดจากการขาย หรือปิดสถานะจำนวนมาก ทำให้ราคาหยุดวิ่ง เช่น ราคาวิ่งขึ้นมาต่อเนื่อง แล้วเกิด Shooting Star พร้อมกับ Volume เกิน SD+2 ก็จะเป็นไปได้ที่ราคามีแรงขายจนหยุดขึ้นชั่วขณะ และเข้าสู่การพักตัว

แสดง Volume Peak ในแท่งราคา Breakout แนวต้าน

และหาก Volume มากจนเกิน SD+2 ขึ้นไป ก็แสดงว่าเป็น Volume Peak มีปริมาณการซื้อขายที่มากผิดปกติ ซึ่งมักจะพบในแท่งราคาที่วิ่งยาวมาก และมีปริมาณการซื้อขายสูง จนเกิดราคาวิ่งไปอย่างรุนแรง เมื่อเกิดขึ้นแล้วราคาจะวิ่งในทิศทางเดิมต่อไป แต่ Volume จะลดลง อาจพบในการ Breakout แนวรับ-แนวต้านสำคัญ จะเป็นอาการบิกการเกิดเทรนด์

หากราคาวิ่งเป็น Trend ไปในขาขึ้น หรือขาลงอย่างชัดเจนแล้ว จากนั้นพบ Volume Peak บริเวณที่ราคาชนแนวรับแนวต้านสำคัญ หรือชนแนวราคาเป้าหมายแท่งราคาที่เกิด Volume Peak อาจจะกลายเป็นแท่งราคากลับตัวซึ่งแสดงการต่อสู้กันของแรงซื้อ แรงขาย จำนวนมาก เป็น Selling Climax หรือ Buying Climax ส่วนมากพบว่าราคาจะชะลอตัว และกลับตัวเปลี่ยนทิศทาง

Awesome Oscillator – AO

AO เป็นเครื่องมือที่มีหลักการเดียวกับ MACD ใช้แสดง momentum ของราคาว่ามีการวิ่งอย่างรุนแรงหรือไม่มีแรงโดยใช้เส้นค่าเฉลี่ย SMA5 และ SMA34 มาลบกันได้ค่า AO ออกมา และใช้ค่า Midpoint ของแท่งราคามาคำนวณเส้น ค่าเฉลี่ย SMA ที่นำมาคำนวณ AO สำหรับสีเขียวแดงของ AO เป็นการแสดงค่า AO ที่มากกว่าหรือน้อยกว่าก่อนหน้า ถ้าค่า AO เพิ่มขึ้นมากกว่าอันก่อนหน้าจะเป็นสีเขียว ถ้าน้อยกว่าก็จะเป็นสีแดง

ดังนั้นถ้าเราเห็น AO วิ่งเป็นสีเขียวต่อเนื่อง แสดงว่า ราคามีโมเมนตัมแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถ้า AO เริ่มเป็นสีแดงต่อเนื่องแสดงว่าราคาเริ่มมีอาการหมดแรง ซึ่งราคาวิ่งขึ้นไป แต่ AO เป็นสีแดง แสดงว่าราคาขึ้นแบบไม่มีแรงให้ระวังมีแรงขายจนทำให้ราคากลับตัวถอยลงมา

AO – Awesome Oscillator

สำหรับ Wave Tunnel Trade Setup จะใช้ AO ในการดูแนวโน้มของราคาและดูความแข็งแรง อ่อนแรงของราคาในแต่ละช่วง และใช้ดูสัญญาณ Divergent ด้วย

ถ้า AO > 0 ถือว่าเป็น Up Trend มองหาสัญญาณในการเปิดสถานะ Long หรือซื้อหุ้น

ถ้า AO < 0 ถือว่าเป็น Down Trend มองหาสัญญาณในการเปิดสถานะ Short หรือหยุดซื้อหุ้น

ถ้า AO ลุกโต แสดงว่าราคาแข็งแรงมาก เคลื่อนที่อย่างเร็ว และถ้า AO ลูกเล็กแสดงว่า ราคาอ่อนแรง จะวิ่งชะลอตัว เช่น ถ้าราคาขึ้น New High แต่ AO เล็กลง แสดงว่า ราคาขึ้นแบบอ่อนแรง ราคากำลังจะพักตัว หรือกลับตัวลงก็ได้

Wave Tunnel Technics ยังมีเครื่องมือสำคัญอีก 2 อย่าง เป็นเครื่องมือหลักของ Trade Setup นี้ครับ รอติดตามกันครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก โต้คลื่นหุ้น กวาดกำไรด้วยเทคนิค Wave Tunnel


Like it? Share with your friends!

1

Comments

comments

Slot Gacor Maxwin

Slot Gacor Gampang Menang

Slot Gacor

Sbobet Mobile