ธุรกิจของเราจะผูกพันธ์วนเวียนกับคนอยู่ 3 กลุ่มคือตัวเราเอง ลูกน้องและลูกค้าทั้ง 3 กลุ่มเชื่อมโยงติดกันเป็นสามเหลี่ยมธุรกิจจะราบรื่นและไปได้D หัวใจสำคัญคือคุณสามารถบริหารความสำคัญของคนทุกฝ่ายให้ราบรื่นไม่ติดขัดวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราเริ่มได้ทันทีคือการเปลี่ยนทัศนคติของเราที่มีต่อทุกฝ่ายเริ่มต้นจากลูกน้องก่อน
เริ่มต้นตั้งแต่การรับคนเข้าร่วมทีม
1.ให้เลือกคนที่ดีที่สุดที่เราหาได้ทุกครั้งสำหรับทุกอย่างในงานท่องไว้คำเดียวว่า Hire the Best
2.อย่าเลือกช่างคนด้วยจังค่าแรงต่างๆหรือตามอัตราตลาดเพราะคนที่เก่งๆจะไม่เคยอยู่นิ่งมีโอกาสที่ไหนเขาจะไปตลอดลองคิดกลับกันว่าถ้ามีใครพยายามสร้างคุณค่าแรงขั้นต่ำควรจะรู้สึกอย่างไร
3.หม่อมพนักงานว่าเป็นเครื่องมือช่วยหาเงินไม่ใช่ภาระของบริษัท
4.อย่าเสียเวลาจ้างคนไม่มีประสบการณ์หรือไม่มีความชอบในสิ่งที่กำลังจะทำ
5.เรียนเก่งๆเกรดดีไม่ได้รับประกันว่าจะทำงานเก่ง
6.การดึงตัวคนของที่อื่นมาเป็นการสร้างทีมที่เร็วที่สุดเมื่อดึงมาได้แล้วต้องเก็บไว้ให้ได้นะคนนั้นมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
7.อย่าไปคิดว่าเสียมารยาทเพราะถ้างานเดิมดีอยู่แล้วหรือเขามีความสุขกับงานนั้นคุณเป็นยังไงก็ไม่มา
8.การจ้างคนพิการหาคนมาทำงานให้เราจะมอบหมายอำนาจในการตัดสินใจให้เขาเยอะๆคงจะมีความสุขไม่ได้ทำงานและตัดสินใจด้วยความคิดของตัวเองผลที่ได้คือนอกจากงานจะเดินเร็วขึ้นแล้วคุณยังจะได้เห็นความเก่งที่ซ่อนอยู่ในตัวแต่ละคนด้วย
9.ต้องมีพนักงานเกินตำแหน่งไว้ 20% เสมอไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่มีอะไรทำแต่กลัวว่าเวลาคนขายดีกว่าเพราะจะกระทบกับคุณภาพของงาน
10.โฟกัสการทำงานที่ผลของงานไม่ใช่วิธีการโดยยึดความพอใจของลูกค้าเป็นเป้าหมายหลัก
สุดท้ายที่สุดในการจ้างงานมาฝากครับเพื่อจะนำมาใช้กัน
สูตรนี้คือทำน้อยให้ได้มาก (20:20:20)
ให้เดือนพื้นฐานสูงกว่าอัตรา 20%
ให้พนักงานเวลาการทำงานน้อยกว่าปกติ 20%
ให้พนักงานมีผลงานหรือออฟฟิศดีกว่ามาตรฐาน 20%
เมื่อได้ลูกน้องมาแล้วให้ปรับมุมมองของเรากับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
1.คิดว่าลูกน้องเป็นลูกค้า
ให้ความสำคัญในการบริหารลูกน้องให้มากพอๆกับบริหารลูกค้าเลิกคิดว่าลูกน้องคือภาระค่าใช้จ่ายแต่เป็นมุมมองว่าพวกเขาคือคนมาช่วยเราหาเงินลูกค้าที่เอาเงินมาให้ปรับความคิดแบบนี้ได้แล้วที่เรามีวิธีเราปฏิบัติต่อลูกน้องจะไม่เหมือนเดิมอีกเลย
2.คิดว่าลูกค้าเป็นตัวเรา
ให้ความสำคัญการเอาใจเขามาใส่ใจเราเราอยากให้ตัวเราเองได้รับการปฏิบัติอย่างไรเวลาไปซื้อของหรือใช้บริการร้านอื่นเราก็ควรปฏิบัติกับลูกค้าของเราในวันนี้เช่นเดียวกัน
3.การเป็นเจ้าของที่ดีเจ้าของต้องติดฟิล์มทำงานทุกอย่างได้เหมือนลูกน้องต้องเตือนตัวเองเสมอว่าเราต้องเริ่มจากศูนย์การสอนงานด้วยการทำให้ดูมีพลังมากกว่าสอนด้วยปากถ้าเราทำได้ลูกน้องจะรู้สึกศรัทธาและให้คุณหมดใจการลงไปทำงานจริงๆจะช่วยให้เจ้าของเห็นและเข้าใจปัญหาได้ดีขึ้นน่าเสียดายว่าจะเป็นเจ้าของเล่นใหม่ๆมักไม่ค่อยจะยอมทำกันแล้วนะที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
จากประสบการณ์ที่เคยทำงานประจำมาหลายที่ส่วนตัวผมคิดว่าการบริหารเจ้านายนั้นปกติก็ยากแล้วแต่การบริหารลูกน้องนั้นยิ่งยากกว่าเพราะปกติคนเรามีเจ้านายแค่ครั้งละคนแต่ละวันมีลูกน้องนับสิบนับร้อยคนในเวลาเดียวกันเพราะลูกน้องของลูกน้องก็ต้องถือว่าอยู่ในความดูแลของเราเช่นกัน
เราต้องอาศัยทักษะในการบริหารคนสูงมากรวมถึงเทคนิคและการใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยในการดูแลทีมโดยสิ่งที่เคยทำมาแล้วได้ผลมีดังนี้
1.เป็นคนฉายไฟ
หน้าที่ของคนเป็นหัวหน้าคือหาวิธีให้ลูกน้องแสดงใช้ไฟฟ้าที่เขากำลังแสดงผลเป็นลบไฟเวลาที่เขาแสดงผิดพลาดการลบไฟล์ในที่นี้หมายถึงการออกโรงปกป้องไม่ให้ลูกน้องโดนต่อว่าไม่ใช่การช่วยกันเป็นความผิดนะครับ
2.ให้ตัวสำรองลงบ้าง
ในทุกทีมเวิร์คจะมีคนเด่นคนรองเสมอไม่ว่าจะเป็นทีมกีฬาหรือที่ทำงานการเปิดโอกาสให้ตัวสำรองลงสนามบ้างในเกมอุ่นเครื่องถือว่าเป็นการเห็นความสำคัญของทีมโดยทั่วถึงกันและเป็นการพัฒนาความสามารถของตัวสำรองไว้ในขณะเดียวกันด้วย
3. กินข้าวร่วมกัน
อย่างน้อยเดือนละครั้งที่เราต้องทานข้าวร่วมกันวางหรืองานไว้ที่ทำงานออกไปหาอาหารทานพร้อมบรรยากาศดีๆเพื่อซักถามทุกข์สุขและชีวิตส่วนตัวกันบ้างเพื่อรับทราบถึงสถานการณ์ชีวิตของแต่ละคนสถานการณ์ชีวิตที่ต่างกันในแต่ละช่วงย่อมส่งผลถึงการทำงานในช่วงนั้นของแต่ละคนอย่างปฏิเสธไม่ได้เป็นนายจำเป็นต้องรู้ความเป็นไปของชีวิตลูกน้องในระดับพื้นฐาน
4. ใช้ภาษาง่ายๆใช้อีเมลให้น้อย
การสั่งงานด้วยโพสต์ไปแปะที่โต๊ะด้วยลายมือจะได้ผลดีกว่าอีเมลครับยิ่งปัจจุบันช่องทางการสื่อสารเต็มไปหมดทั้ง LINE ส่วนตัว LINE กลุ่มทำให้โอกาสในการสื่อสารผิดพลาดเพิ่มขึ้นไปด้วยแต่ถ้าลูกน้องคนไหนไม่ถนัดภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยอย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก
5.ยึดติดในหน้าที่ไม่ใช่ทุกคน
สร้างวัฒนธรรมและความเชื่อเดียวให้ทีว่าทุกคนสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยหัวหน้าคนนี้ความเชื่อที่จะเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนพัฒนาตัวเองและเอาตัวรอดกล้าตัดสินใจมีปัญหามาถึงและหัวหน้าก็ต้องเร่งพัฒนาตัวเองด้วยเหมือนกัน
6. ชมให้บ่นให้น้อย
คำชมเป็นสิ่งที่สร้างพลังบวกให้ทุกคนในทีมและการชนแบบเต็มใจเต็มเสียงและส่งให้ทางทีมรับรู้เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกันเวลาจะหมดฤดูควรทำตามลำพังและสำคัญที่สุดคือดูแล้วต้องทำให้ดีกว่าลูกน้องด้วย
ลองนำไปใช้ดูนะครับแล้วทีมจะดีขึ้นจนเราอดแปลกใจไม่ได้เลยครับ